Search

การท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโร ได้รับผลกระทบอย่างไรในช่วงโควิด-19 - ข่าวสด

berlin-tours.blogspot.com

การท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโร ได้รับผลกระทบอย่างไรในช่วงโควิด-19

หมู่เกาะแฟโรที่ถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติก อยู่ห่างไกลจากเพื่อนบ้านหลายร้อยกิโลเมตร ผู้คนที่นี่เลี้ยงดูชีวิตด้วยการหาปลา 90% ของสินค้าส่งออกของที่นี่คือปลา แต่ไวรัสโคโรนากำลังส่งผลกระทบต่อความพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวของที่นี่

การขับรถไปยังหมู่บ้านกลิฟราร์ (Glyvrar) ไม่ใช่เรื่องง่าย ถนนที่ออกมาจากสนามบินทอดผ่านภูเขาหลายลูกและฟยอร์ดหลายแห่ง นอกจากนี้ต้องลอดอุโมงค์ต่าง ๆ ที่ตัดทะลุเนินเขา และมุดลงใต้ทะเลด้วย

หมู่บ้านกลิฟราร์ (Glyvrar) เป็นที่ตั้งของบริษัทบักกาฟรอสต์ (Bakkafrost) ที่ทำฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอน และเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแฟโร

โรงงานที่ทันสมัยของบริษัทแปรรูปแซลมอนได้เกือบ 60,000 ตันต่อปี

ปลาแซลมอนแอตแลนติก
Getty Images
ปลาคือสินค้าส่งออกมากที่สุดของหมู่เกาะแฟโร

การดำเนินงานส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักร สายพานลำเลียงปลาผ่านเครื่องจักรหลายประเภทจนกระทั่งปลาถูกบรรจุหีบห่อ จากนั้นแขนกลจะแยกประเภทกล่องเพื่อเตรียมส่งขึ้นเรือ

บริษัทบักกาฟรอสต์ (Bakkafrost) มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่เพาะเลี้ยงลูกปลาแซลมอนไปจนถึงโรงงานทำอาหารปลา แม้แต่กล่องโฟมใยสังเคราะห์ติดตรายี่ห้อ ทางบริษัทก็ผลิตขึ้นเอง เป็นลักษณะของการพึ่งพาตัวเองของชาวเกาะแฟโร

"เราเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่นี่ในช่วงต้นทศวรรษ 80" เรจิน เจคอบเซน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว "เราเห็นว่า การตั้งอยู่กลางแอตแลนติกเหนือ ทั้งเรื่องวัสดุในการผลิตและการขนส่งเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์เราออกสู่ตลาดเป็นเรื่องค่อนข้างยาก"

แต่นั่นก็เป็นโอกาสเช่นกัน เขากล่าวว่า "[เราสามารถ] สร้างความแตกต่างให้ตัวเอง... และสร้างคุณค่าให้สูงขึ้น"

การทำฟาร์มปลาแซลมอนจากมหาสมุทรแอตแลนติกเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกจาก 1.4 ล้านตัน เป็น 2.6 ล้านตัน ในเวลา 10 ปี นอร์เวย์และชิลี เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด แต่ปลาแซลมอนจากหมู่เกาะแฟโรตั้งราคาได้สูงกว่ามาก

ปลาแซลมอนกำลังถูกแปรรูปที่บริษัทบักกาฟรอสต์ (Bakkafrost)
Adrienne Murray
การผลิตที่บริษัทบักกาฟรอสต์ (Bakkafrost) ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรกล

หมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่ห่างจากสกอตแลนด์ไปทางเหนือราว 320 กม. และเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก มีเกาะหลัก 18 เกาะ และมีประชากรเพียง 52,000 คน

ปลาแซลมอนของที่นี่ปกติจะมีราคาขายสูงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาด 10% เพราะหลายปัจจัย รวมถึงคุณภาพของอาหารปลา มาตรฐานการทำฟาร์มขั้นสูง ความยั่งยืนและการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

นายเจคอบเซนบอกว่า เมื่อ 15 ปีก่อน แซลมอนส่วนใหญ่ของประเทศถูกส่งออกไปที่สหภาพยุโรป แต่ทุกวันนี้ ถูกส่งไปขายทั่วโลก

รัสเซียและสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด ในปี 2014 รัสเซียห้ามนำเข้าอาหารจากสหภาพยุโรป เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรกรณียูเครน อย่างไรก็ตาม หมู่เกาะแฟโร ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ต่างจากเดนมาร์ก ทำให้การส่งออกไปรัสเซียเพิ่มขึ้น

นายเจคอบเซนกล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดขายเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีนี้จากความนิยมรับประทานซูชิปลาแซลมอนเพิ่มมากขึ้น และกระแสการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

แต่ในช่วงที่การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก หมู่เกาะแฟโรเองก็หนีไม่พ้น

ฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอนของบริษัทบักกาฟรอสต์
Adrienne Murray
ฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอนตั้งอยู่โดยรอบหมู่เกาะแฟโร

การส่งออกรวมของหมู่เกาะแฟโรลดลง 7% ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยยอดขายจากจีน ลดลงอย่างฮวบฮาบ 65% เพราะรัฐบาลจีนห้ามนำเข้าอาหารหลายชนิดชั่วคราว

"ตลาดจีนกลายเป็นตลาดสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ" นายเจคอบเซนกล่าว "สำหรับบักกาฟรอสต์ (Bakkafrost) มันยิ่งมีความสำคัญมาก ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 20% ของยอดขายเรามาจากจีน"

ในทางกลับกัน มาตรการล็อกดาวน์ของหลายที่ก็ช่วยกระตุ้นธุรกิจ

"เราเติบโตดีทั้งในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป" นายเจคอบเซนกล่าว "ซูเปอร์มาร์เก็ต ขายของได้มากกว่าช่วงปกติ เพราะผู้คนกินข้าวที่บ้านมากขึ้น"

การท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโร
Adrienne Murray
เศรษฐกิจของหมู่เกาะแฟโรยังคงแข็งแกร่ง

การปกป้องประชากรและเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา หมู่เกาะแฟโรได้ใช้มาตรการกักตัว และการแกะรอยติดตามผู้ติดเชื้ออย่างเข้มข้น ทำให้หมู่เกาะแฟโรเป็นหนึ่งในที่ที่มีอัตราการทดสอบหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สูงที่สุดในโลก ทุกคนจะต้องถูกตรวจหาเชื้อเมื่อเดินเทางเข้ามา

ความพร้อมนี้ส่วนหนึ่งมาจากการประมงของที่นี่ ห้องปฏิบัติการสัตวแพทย์ซึ่งถูกตั้งขึ้นมานานหลายปีแล้ว เพื่อเฝ้าระวังโรคภัยต่าง ๆ ได้ถูกนำมาดัดแปลงในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อพร้อมใช้ทดสอบหาเชื้อโรคโควิด-19 ในมนุษย์

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ดินแดนหมู่เกาะแฟโรไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เลยแม้แต่คนเดียว และมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันเพียง 227 คนเท่านั้น

...........................

คุณอาจสนใจ:

..........................

เฮรี อา โรกวี (Heri a Rogvi) ประธานสภาเศรษฐกิจหมู่เกาะแฟโร คิดว่าการที่เศรษฐกิจของหมู่เกาะแฟโรอยู่ในสภาพดี ทำให้หมู่เกาะแฟโรมีความได้เปรียบในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา

"ไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเล็กน้อย" นายโรกวีกล่าว

"ตอนนี้เรามีอัตราการว่างงานที่ 1.7% ซึ่งต่ำมาก ผมคิดว่า เราน่าจะเป็นเขตเศรษฐกิจที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในยุโรป"

เศรษฐกิจของหมู่เกาะแฟโรพัฒนาขึ้นมาก นำโดยภาคอุตสาหกรรมปลา ซึ่งคิดเป็น 20% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมด สถิติล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศต่อหัวประชากรอยู่ที่ 58,950 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2017 (ประมาณ 1.82 ล้านบาท) ตัวเลขนี้เกือบจะสูงเท่าสหรัฐฯ (59,958 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.85 ล้านบาท) และมากกว่าทั้งสหราชอาณาจักร (40,361 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.24 ล้านบาท) และฝรั่งเศส (40,109 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.23 ล้านบาท)

หมู่เกาะแฟโรยังได้รับเงินสนับสนุนประจำปีจากเดนมาร์กอีกราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) ในช่วงไม่กี่ปีนี้หมู่เกาะแฟโรได้หันมาดึงดูดนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมากในปีนี้เนื่องจากโควิด-19

"นี่คือทัวร์เดียวที่เรามีวันนี้ มีคน 14 คนบนเรือ" กันนาร์ สกูวาดาล กล่าว ขณะที่เขากำลังควบคุมเรือยนต์ เข้าไปยังหน้าผานกทะเล ใกล้กับเมืองเวสตามานนา (Vestamanna) ปกติเขาจะจัดนำเที่ยวตั้งแต่เดือนเม.ย. แต่ปีนี้หมู่เกาะแฟโรเพิ่งเปิดพรมแดนให้คนเข้าช่วงกลางเดือน มิ.ย.

นักท่องเที่ยวบนเรือยนต์ของกันนาร์ สกูวาดาล
Adrienne Murray
จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงสืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

"ในวันปกติในเดือน มิ.ย. เราน่าจะมี 3 ทัวร์ คนเต็มลำเรือ หรือประมาณทัวร์ละ 40 คน"

ชาวเยอรมัน ชาวเดนมาร์ก และคนจากหมู่เกาะแฟโรที่เที่ยวภายในประเทศ อยู่ในกลุ่มผู้โดยสารเรือ พวกเขาพากันถ่ายภาพถ้ำและนกพัฟฟินที่กำลังทำรัง

"ถ้าผมผ่านช่วงหน้าร้อนนี้ไปได้โดยไม่ติดลบ [ขาดทุน] ผมคิดว่าก็น่าพอใจแล้ว" นายสกูวาดาลกล่าว

ในช่วงไม่กี่ปีนี้ การท่องเที่ยวเติบโตขึ้นมาก มีคนเดินทางมาเยือนมากเป็นประวัติการณ์ การทำการตลาดแบบไวรัลอย่าง กูเกิลชีปวิว (Google Sheepview คือการนำกล้องไปติดไว้บนตัวแกะ) และโครงการ "ปิดเกาะเพื่อบูรณะ" ในปี 2019 ทำให้หมู่เกาะแฟโรกลายเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว

ปีที่แล้วมีคนเดินทางมาเยือน 130,000 คน เส้นทางบินใหม่จากนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ และกรุงลอนดอนของอังกฤษ มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปีนี้

"ปีนี้เราน่าจะมีคนมาเยือนแค่ 20-30% จากจำนวนที่เราน่าจะมีในปี 2020" กูดริด โฮจ์การ์ด (Gudrid Hoejgaard) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโร กล่าว "ปีนี้จึงเป็นปีที่แย่มาก แต่ฉันว่าปี 2021 จะดีขึ้น"

Gudrid Hoejgaard
Visit Faroe Islands
กูดริด โอจ์การ์ด (Gudrid Hoejgaard) เป็นผู้นำผลักดันการท่องเที่ยว

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "การท่องเที่ยวยังคงเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กของที่นี่ [2% ของเศรษฐกิจ] แต่มันช่วยขยายตลาดแรงงาน ช่วยสร้างงานในภาคบริการและงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์"

หลายฝ่ายหวังว่าการเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจของหมู่เกาะแฟโร จะช่วยสนับสนุนให้คนหนุ่มสาวอาศัยอยู่ที่หมู่เกาะแฟโรแทนที่จะย้ายออกไปอยู่ต่างประเทศ

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ทำให้มีคนอพยพออกไปหลายพันคน พอถึงช่วงต้นทศวรรษ 2000 การว่างงานก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมากอีกครั้ง จากเหตุโรคที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปลาแซลมอน จนทำให้บริษัทแซลมอนส่วนใหญ่จากจำนวนหลายสิบแห่งต้องปิดกิจการ

หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนหมู่เกาะแฟโร
Adrienne Murray
หมู่เกาะแฟโรมีประชากรเพียง 52,000 คน

"เรา [ยังคง] ค่อนข้างเสี่ยง แต่เทียบกับตอน 15-20 ปีก่อน เราแข็งแรงขึ้นมากในตอนนี้" นายโรกวีกล่าว

"ผมคิดว่าเราต้องพยายามต่อไปอีกอย่างน้อย 50 ปี ในการทำให้คนหนุ่มสาวอยู่ที่นี่ต่อไป"

หลายคนเดินทางไปเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และมักจะไม่กลับมา แต่โอกาสด้านการศึกษาและการทำงานที่ดีขึ้น ทำให้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้

ขณะที่การอพยพเข้ามาสูงขึ้นประกอบกับอัตราการเจริญพันธุ์ที่สูงที่สุดในยุโรป ทำให้ประชากรของหมู่เกาะแฟโรเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 52,000 คน

"สำหรับเรา นั่นคือตัวเลขที่สูงอย่างมาก" นายโรกวีกล่าว

การถอดเสียงชื่อคนและสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่องอาจมีความคลาดเคลื่อน




September 01, 2020 at 11:57PM
https://ift.tt/3lF0hax

การท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโร ได้รับผลกระทบอย่างไรในช่วงโควิด-19 - ข่าวสด

https://ift.tt/2VxIbuS


Bagikan Berita Ini

0 Response to "การท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโร ได้รับผลกระทบอย่างไรในช่วงโควิด-19 - ข่าวสด"

Post a Comment

Powered by Blogger.